บันทึกการเรียนรู้ (ครั้งที่ 8)


บันทึกการเรียนรู้  (ครั้งที่ 8)


วิชา การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย  รหัสวิชา EAED 1103
   วันอังคารที่ 6 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2561
บันทึกการเรียนรู้  (ครั้งที่ 8)
        วันนี้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทที่ 5 การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย

การอบรมเลี้ยงดูเด็ก 
       หมายถึง การที่บิดา มารดา หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในการเลี้ยงดูเด็ก ปฏิบัติต่อเด็กกที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ให้เจริญเติบโต และมีพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา ซึ่งผู้อบรมต้องอบรมด้วยความรัก ความเข้าใจ และปรับวิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็กอย่างเหมาะสม ให้เข้ากับสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคม เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นคนดี สามารถเผชิญกับสภาพการณ์ของสังคม และอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

ความสำคัญมากสำหรับความสัมพันธุ์ระหว่างพ่อแม่กับลูก
     คือ การยอมรับ ความรัก และความเอ็นดูสงสาร ความรู้สึกเหล่านี้จะกล่อมเกลาให้ลูกยอมรับคนอื่น และรู้จักมีน้ำใจไมตรีกับผู้อื่นต่อไปในอนาคต
การยอมรับของพ่อแม่ทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญ มีคนสนใจรักใคร่เอ็นดู เป็นความรู้สึกที่ดี เป็นรางวัลเวลาที่เขาทำความดี หรือปฏิบัติต่อผู้อื่นในทางที่ดี การยอมรับและความรักใคร่เอ็นดูเป็นตัวถ่วงดุลกับความโลภ ความก้าวร้าว และความคิดในทางทำลาย เด็กที่พ่อแม่ยอมรับและรักใคร่เอ็นดู จึงมีแต่ความคิดในทางที่ดี
การดูแลเด็กวัยทารก   เป็นวัยที่สำคัญที่สุดในการวางรากฐานสำคัญต่าง ๆ ของชีวิตในทุก ๆ ด้าน เป็นระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด บิดามารดาผู้เลี้ยงดูจึงควรใช้ระยะเวลานี้เพื่อส่งเสริมให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นโดยการตอบสนองความต้องการจำเป็นต่าง ๆ เพื่อให้ทารกมีพัฒนาการที่ดีทั้งทางกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ซึ่งเป็นการสร้างสุขภาพทางกายและทางใจให้สมบูรณ์   
การเลี้ยงทารกด้วยนมแม่   เป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการของเด็ก ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ความสำคัญเป็นเรื่องของคุณค่าในน้ำนมแม่ที่เหมาะกับร่างกายของเด็ก เพราะร่างกายของเด็กยังมีระบบภูมิคุ้มกัน และโครงสร้างของร่างกายไม่แข็งแรง พร้อมๆ กับอยู่ในระยะที่สมองมีการเจริญเติบโตสูงสุด และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จึงเป็นสิ่งที่ธรรมชาติจัดไว้เพื่อให้เด็กได้มีมารดาต้องอยู่เลี้ยงเด็กอย่างใกล้ชิด และมีโอกาสให้อาหารที่ดี และปลอดภัยต่อการเจริญเติบโต
ชนิดของน้ำนมแม่ แบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1. น้ำนมเหลืองหรือหัวน้ำนม (Colostrum)น้ำนมเหลืองมีสีเหลืองข้น เริ่มสร้างตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์จนถึง 3-4 วันแรกหลังคลอด จะให้พลังงานประมาณ 58-67 แคลอรี่/100 มิลลิลิตร มีสีเหลือง เนื่องจากปริมาณ Carotene มากกว่านมระยะหลังถึง 10 เท่า ในหัวน้ำนมจะมีโปรตีน เกลือแร่ และวิตามินที่ละลายในไขมันปริมาณที่สูง แต่มีปริมาณไขมัน และน้ำตาลต่ำ จึงทำให้ย่อยง่าย หัวน้ำนมยังช่วยให้แบคทีเรียในลำไส้ของเด็กทำงานได้เป็นปกติ
2. น้ำนมแท้ (Mature Milk)
น้ำนมแท้ เป็นน้ำนมที่สร้างออกมาเป็นระยะสุดท้าย ลักษณะจะดูคล้ายกับนมที่สกัดเอาไขมันออก (Skim Milk) น้ำนมแท้มีลักษณะสีขาวนวล และไม่เข้มข้นเหมือน หัวน้ำนม และจะให้พลังงานประมาณ 20 กิโลแคลอรี่/ออนซ์ ประกอบด้วยน้ำประมาณร้อยละ 90 ที่เหลือเป็นคาร์โบไฮเดรท โปรตีน และไขมัน ประมาณร้อยละ 10 ซึ่งเหมาะสม และเพียงพอกับความ ต้องการของเด็ก และสามารถป้องกันการขาดน้ำ


        

   

 

                                                                              ภาพกิจกรรมการเรียนการสอน


                       
                    แบบประเมิน

   แบบประเมินตนเอง

        ตนเองตั้งใจฟังเนื้อหาที่อาจารย์สอน  
                      
 แบบประเมินเพื่อน                                                                                       
        เพื่อนทุกคนตั้งใจฟังและตอบคำถาม
                       
  แบบประเมินครู
      อาจารย์ตั้งใจสอนและตั้งใจอธิบายเนื้อหา







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึกการเรียนรู้ (ครั้งที่ 2)

บันทึกการเรียนรู้ (ครั้งที่ 3)

บันทึกการเรียนรู้ (ครั้งที่ 13)